บุคลิกภาพมีความสำคัญอย่่างยิ่งต่อการปกครองและการดำเนินชีวิตแบบประชาธิปไตย นักรัฐศาตร์พบว่าสังคมใดที่ประกอบด้อยบุคคลที่มีบุคลิกภาพแบบอำนาจนิยม ประชาธิปไตยในสังคมนั้นจะประสบความล้มเหลวหรือมีพัฒนาการไปอย่างช้าๆ ในทางตรงกันข้าม ถ้าสังคมใดประกอบด้วยบุคคลที่มีบุคลิกภาพแบบประชาธิปไตย สังคมนั้นจะประสบความสำเร็จในการเสริมสร้างประชาธิปไตย ทั้งในวิถีการดำเนินชีวิตและการปกครอง
ส่วนบุคลิกภาพ หมายถึงผลรวมของคุณสมบัติต่างๆ ได้แก่ความสนใจ ทัศนคติ อุปนิสัย ความสามารถ การพูด ลักษณะภายนอก การปรับตัว หรือ บุคลิกภาพ หมายถึงแบบแผนทั่วไปของชีวิต หรือบุคลิกภาพ หมายถึงแบบแผนของพฤติกรรม ซึ่งมีลักษณะคงที่ เป็นพฤติกรรมที่ขึ้นอยู่กับรากฐานของความคิด ความรู้สึกและการรับรู้
บุคลิกภาพมีอิทธิพลต่อพฤติกรรมของคน ในทางการเมืองหากคนในสังคมส่วนใหญ่มีบุคลิกภาพแบบใดมาก การเมืองการปกครองจะมีแนวโน้มไปในทิศทางนั้น
สำหรับคำว่า ประชาธิปไตย อาจจำแนกได้เป็น 2 ความหมาย คือ ประชาธิปไตย หมายถึงระบอบการปกครอง กับประชาธิปไตยที่ หมายถึงสัมพันธภาพระหว่า่งบุคคล
ประชาธิปไตยที่เป็นระบอบการปกครอง ผู้ปกครองจะต้องได้รับความยินยอมจากผู้ใต้ปกครอง ผู้ใต้ปกครองจะต้องมีสิทธิ์เปลี่ยนผู้ปกครองได้เป็นครั้งคราว สิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานของประชาชนจะต้องได้รับความคุ้มครอง นอกจากนี้ จะต้องถือว่าบุคลลแต่ละคนเป็นหน่วยของชาติที่มีความสำคัญที่สุด มีศักดิ์ศรี และมีความศักดิ์สิทธิ์อันจะละเมิดมิได้
ส่วนประชาธิปไตยที่เป็นสัมพันธภาพระหว่างบุคคลในสังคม จะต้องประกอบด้วย การเคารพในสิทธิซึ่งกันและกัน มีการตกลงโดยสันติวิธี และ มีความยุติธรรมในสังคม
สำหรับผู้มีบุคลิกภาพแบบประชาธิปไตยนั้น ได้แก่บุคคลที่มีคุณสมบัติ ดังนี้ มีความคิดเป็นของตัวเอง ไม่นิยมการยอมตามความคิดเห็นของคนอื่นเว้นเสียแต่ว่าจะถูกชักจูงให้คล้อยตามด้วยเหตุผลที่ควรจะเชื่อถือ เป็นคนที่ปรับตัวให้เข้ากับสถานะการณ์ใหม่ๆได้ง่าย มีความรับผิดชอบผูกพันในสิ่งที่เขาได้ตัดสินใจทำลงไป ไม่อคติต่อผู้ที่มีความแตกต่างจากตน เช่น ต่างศาสนา ต่างเชื้อชาติ ต่างความคิด ฯลฯ คิดถึงบุคคลอื่นในฐานะที่คนนั้นเป็นตัวของเขาเองไม่ใช่จัดประเภทให้เขาโดยไม่มีเหตุผล
มองโลกในแง่ดีอยู่เสมอ มีศรัทธาและความหวังต่อชีวิต ไม่ยอมก้มหัวให้กับผู้ยิ่งใหญ่ง่ายๆแม้ว่าจะยอมรับอำนาจแต่อำนาจนั้นต้องมีเหตุผลหรือมีความชอบธรรม
ถึงตอนนี้ เห็นจะต้องถามตนเองว่ามีบุคลิกภาพแบบประชาธิปไตยแล้วยัง บ้านเมืองเรามีการปกครองแบบประชาธิปไตยแล้วหรือยัง ถ้ายังและอยากเป็นประชาธิืปไตยเห็นจะต้องช่วยกันตอบว่า จะพัฒนาตนเองและการเมืองการปกครองกันอย่างไร จึงจะไปสู่เป้าหมายที่ต้องการ
---------------------------------------
สาระคำ
ปรองดอง ก. ออมชอม ประนีประนอม ยอมกัน ไม่แก่งแย่งกัน ตกลงกันด้วยความไกล่เกลี่ย ตกลงกันด้วยไมตรีจิต
--------------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น