จากพฤติกรรมของสมาชิกวุฒิสภาส่วนหนึ่งที่มาจาการเลือกตั้ง ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2540 ทำให้วุฒิสภากลายเป็น"สภาทาส" "สภาผัวเมีย" และ"สภาผู้แทนสาขา 2"
รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 ซึ่งได้ร่างขึ้นมาใหม่ พยายามแก้ปัญหาดังกล่าว โดยให้วุฒิสมาชิกมาจากการเลือกตั้ง 76 คน และมาจากการสรรหา 74 คน แทนการเลือกตั้งทั้งหมด และได้กำหนดเงื่อนไขในมาตราต่างๆไว้ดังนี้
มาตรา 115 (5) ไม่เป็นบุพการี คู่สมรส หรือบุตรของผู้ดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง
(6)ไม่เป็นสมาชิกหรือผู้ดำรงตำแหน่งใดในพรรคการเมือง หรือเคยเป็นสมาชิกหรือเคยดำรงตำแหน่ง และพ้นจากกสมาชิกหรือการดำรงตำแหน่งใดๆในพรรคการเมืองมาแล้วไม่เกินห้าปีถึงวันสมัครรับเลือกตั้งหรือวันที่ได้รับการเสนอชื่อ
(9)ไม่เป็นรัฐมนตรีหรือผู้ดำรงตำแหน่งทางเมืองอื่นซึ่งมิใช่สภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น หรือเคยเป็น แต่พ้นจากตำแหน่งดังกล่าวมาแล้วยังไม่เกินห้าปี
มาตรา 116 (วรรคสอง) บุคคลผู้เคยดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาและสมาชิกภาพสิ้นสุดลงมาแล้วไม่เกินสองปี จะเป็นรัฐมนตรี หรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมิได้
มาตรา 117 (วรรคสอง) สมาชิกภาพของวุฒิสภามีกำหนดคราวละ หกปี โดยสมาชิกวุฒิสภาจะดำรงตำแหน่งติดต่อกันเกินหนึ่งวาระไม่ได้
มาตราเหล่านี้ตราขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้วุฒิสภากลายเป็น สภาผัวเมีย สภาทาส หรือ สภาผู้แทนสาขา 2 เหมือนในอดีต แต่ก็มีบ้างที่สมาชิกบางคนที่มาจาการเลือกตั้ง ออกมาเคลื่อนไหวร่วมกับส.ส.ฝ่ายรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมและการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ไม่โจ่งแจ้งเหมือนวุฒิสมาชิกที่ผ่านมา โดยพยายามทำตัวเป็นนักประชาธิปไตยและนักปรองดอง แต่มีเหมือนกันที่เผยธาตุแท้ออกมาในบางครั้ง
ที่เชื่อกันว่า ในระบอบประชาธิปไตยตำแหน่งต่างๆจะต้องมาจากการเลือกตั้ง เพื่อให้ยึดโยงกับประชาชน เห็นจะไม่จริง เพราะประชาธิปไตยมีหลายรูปแบบ ประเทศคอมมิวนิสม์ หรือสังคมนิยมก็อ้างว่าเป็นประเทศประชาธิปไตยเหมือนกัน
ในทำนองเดียวกัน สมาชิกวุฒิสภาหลายประเทศก็ไม่ได้มาจาการเลือกตั้ง ส่วนจะมาจากการเลือกตั้งหรือไม่ ขึ้นอยู่กับกำหนดให้สมาชิกมีอำนาจมากน้อยแค่ไหน หลายประเทศที่มีการแต่งตั้ง สมาชิกวุฒิสภาทำหน้าที่เพียงแค่กลั่นกรองกฎหมาย
จึงไม่จำเป็นว่าทุกตำแหน่งในระบอบประชาธิปไตยจะต้องมาจากการเลือกตั้งทั้งหมด และการเลือกตั้งที่เต็มไปด้วยการทุจริตฉ้อฉลของการเมืองไทย นอกจากไม่มีประโยชน์แล้วยังทำลายระบอบประชาธิปไตยด้วยซ้ำไป
อย่างไรก็ตามจากความพยายามที่จะแก้ไขมาตราต่างๆดังกล่าวของสมาชิก ทราบว่าบัดนี้ความพยายามของสมาชิกวุฒิสภาและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ก็ประสบความสำเร็จ โดยมีสมาชิกรัฐสภา ออกเสียงเห็นชอบให้มีการแก้ไขมาตราดังกล่าว ด้วยคะแนน 316 ต่อ 3 เสียง
ซึ่งหมายถึงว่า การสมัครสมาชิกวุฒิสภาได้เปิดกว้าง ต่อไปนี้ คู่สมรส บุพการี หรือเครือญาติ รวมทั้งส.สและ.ส.วไม่ต้องเว้นวรรค สามารถสมัครรับเลือกตั้งติดต่อกันได้เลย
ส่วนวุฒิสภา จะกลับมาเป็นสภาผัวเมีย สภาทาส หรือสภาผู้แทนสาขา 2 อีกหรือไม่ ต้องดูว่าวุฒิสมาชิกที่มาจากการเลือกตั้งเหล่านั้น ทำเพื่อประโยชน์ตนหรือประโยชน์ชาติ ซึ่งจะต้องติดตามกันต่อไป
-------------------------------------------------------
สาระคำ
ถ้าเกิดมาเพื่อเบียดเบียนกัน มันก็เลวร้ายกว่าโลกสัตว์เดรัจฉาน ซึ่งเบียดเบียนกันน้อยที่สุด ถ้าไม่จำเป็นมันก็ไม่กัดกัน
พุทธทาสภิกขุ
----------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น