วันจันทร์ที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2559

แนวทางการบริหารจัดการเวลาที่มีประสิทธิผล

แม้จะทำงานหนักมากเท่าที่จะทำได้ คือทำตั้งแต่เช้ามืดจนกระทั่งล้มตัวลงนอนในตอนกลางคืน แต่ก็ดูเหมือนว่า ไม่มีเวลาเพียงพอที่จะทำในสิ่งที่ต้องการจะทำ

ความจริงเวลาไม่สามารถจะเพิ่มได้ คือวันหนึ่งมีเพียง 24 ชั่วโมง และสัปดาห์หนึ่งก็มีเพียง 7 วัน แต่ที่จะทำได้คือ การรู้จักบริหารจัดการเวลา 

การบริหารจัดการเวลา ก็คือการควบคุมเวลาและงาน มากกว่าที่จะให้เวลาและงานมาเป็นตัวควบคุม ชีวิตที่ประสบความสำเร็จ จะต้องมีจิตสำนึกในการบริหารจัดการเวลา

แต่การบริหารจัดการเวลาจะมีประสิทธิผลได้ ก็ต่อเมื่อมีการเปลี่ยนนิสัยและพฤติกรรมของตน 

สำหรับการบริหารจัดการเวลาที่มีประสิทธิผล มีแนวทางดังต่อไปนี้

แนวทางที่ 1 ทำให้วัตถุประสงค์มีความชัดเจน วัตถุประสงค์ต่างกับเป้าหมายที่ว่า เป้าหมายเปรียบเสมือนเป็นเป้า(target) หรือเป็นผล (end) ที่จะไปให้ถึง ส่วนวัตถุประสงค์ เป็นขั้นที่นำไปสู่เป้าหมาย การทำวัตถุประสงค์ให้ชัดเจน หมายถึงการตัดสินใจอย่างมีขั้นตอน ว่ามีอะไรบ้างที่จำเป็นจะต้องทำเพื่อให้ไปถึงเป้าหมาย ตลอดจนคาดคะเณว่าจะต้องใช้เวลาแต่ละขั้นตอนมากเท่าไร แล้วจัดสรรเวลาเพื่อทำให้เสร็จในแต่ละขั้นตอน เป็นการจัดทำงบประมาณเวลา ว่าเวลาที่มีอยู่จะใช้ทำอะไรบ้าง ตอนไหนมากตอนไหนน้อย

แนวทางที่ 2 วิเคราะห์นิสัยการใช้เวลา  เป็นการดูว่าในการทำงานแต่ละชิ้น ใช้เวลาในการทำงานมากน้อยเพียงใด จะทำให้พบว่ามีบางเวลาที่สูญเสียโดยเปล่าประโยชน์  และมีบางเวลาที่มีผลิตภาพสูง  ตลอดจน ระบุนิสัยที่ทำให้เวลาสูญเปล่าโดยไร้ประโยชน์ และเลิกนิสัยดังกล่าวเสีย

แนวทางที่ 3 จัดทำรายการที่จะต้องทำในแต่ละวันแต่ละสัปดาห์ เป็นการเลือกที่จะใช้เวลาว่า เวลาไหนควรทำอะไร ตลอดสัปดาห์ แทนการทำไปเรื่อยๆตามงานที่เข้ามา  ซึ่งจะช่วยให้สามารถหลีกเลี่ยงความเครียด การคับข้องใจอันเกิดจากการทำงานหนักแต่มีผลสำเร็จน้อย

แนวทางที่ 4. จัดตนเองให้เป็นระบบ กล่าวกันว่า คนที่ไม่เป็นระบบที่สุด คือคนที่อยู่ในกลุ่มที่ทำงานหนักที่สุด เป็นคนทำงานทั้งวัน โดยพยายามทำทุกสิ่งทุกอย่าง  เหตุผลหนึ่งที่ทำให้ต้องทำงานหนักและนานกว่าทุกๆคน ก็เพราะทำทุกสิ่งตามบุญตามกรรม ไม่มีระบบ โดยอ้างว่ามีอิสระ ทำได้ตามที่ตนเองต้องการจะทำ ความจริงการจัดตนเองให้เป็นระบบ จะช่วยให้ตนเองมีเสรีภาพ ทำงานได้ง่าย ทำงานได้มากกว่า และทำให้ตนเองมีคุณค่า

แนวทางที่ 5 ปลูกฝังนิสัยการบริหารจัดการเวลา ทุกคนมีเวลาวันละ 1440 นาที 168 ชั่วโมง ใน 1 สัปดาห์ และมี 8760 ชั่วโมงใน 1 ปี แต่จะใช้เวลาให้เกิดประโยชน์มากน้อยขึ้นอยู่กับการบริหารจัดเวลา ซึ่งมีวิธีง่ายๆ เช่น ใช้เวลาทุกนาทีเพื่อมุ่งไปสู่เป้าหมาย ทำทุกสิ่งให้ถูกต้องครั้งแรก  รู้จักมอบหมายงานให้คนอื่นรับผิดชอบ เป็นต้น

แนวทางที่ 6 ใช้เวลาทั้งหมดรวมทั้งเวลาพักผ่อนเพื่อไปสู่เป้าหมาย มนุษย์เป็นสัตว์สังคม นอกจากจะใช้เวลาเพื่อการทำงานแล้ว จะต้องแบ่งเวลาส่วนหนึ่ง เพื่อการพักผ่อน สันทนาการ สร้างความสัมพันธ์กับคนอื่น การเรียนรู้เพื่อการเจริญเติบโต ตลอดจนเวลาที่ใช้เพื่อดูความสวยงามของโลก การใช้เวลาเพื่อกิจกรรมเหล่านี้ ควรใช้เพื่อประโยชน์ในการบรรลุเป้าหมายด้วย

การรับผิดชอบต่อชีวิต หมายถึงความรับผิดชอบต่อการใช้เวลา การเรียนรู้ที่บริหารจัดการเวลา จะทำให้ชีวิตดีขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น สามารถนำชีวิตไปสู่เป้าหมายอย่างมีความสุข 
            ------------------------------------------------------------------------------

                                                    สาระคิด

             ถ้าคนเราไม่สามารถจัดการเวลาได้ ก็ไม่สามารถจัดการเรื่องอื่นๆได้
                                                             Peter Drucker
                           ------------------------------------------------------------

วันอังคารที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2559

องค์ประกอบที่นำไปสู่ความสำเร็จในชีวิต

การจะประสบความสำเร็จในชีวิตได้นั้น ความพยายามอย่างมุ่งมั่นเพื่อไปสู่เป้าหมายเพียงอย่างเดียว ไม่เป็นการเพียงพอ จำเป็นจะต้องมีองค์ประกอบต่อไปนี้ร่วมด้วย คือ

          1. การสร้างคุณค่าในตน คนที่ให้คุณค่าแก่ตนเองสูง จะเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งตรงกันข้ามกับคนที่ให้คุณค่าตนเองต่ำ ที่มักจะขาดความตั้งใจ  มีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จต่ำ เพราะเป็นบุคคลประเภทขาดวินัย ทำงานเป็น กลุ่มไม่เป็น ไวต่อคำวิจารณ์ อิจฉาคนอื่น ไม่ว่าบุคคลผู้นั้นจะเป็นลุกจ้างหรือเพื่อนร่วมงาน จะทำงานด้วยกันยากมาก เนื่องจากมีแนวโน้มจะเป็นคนเปราะบางทางอารมณ์ และมีการสร้างเงื่อนไขที่นำไปสู่ความล้มเหลว เมื่อบุคคลสามารถสร้างคุณค่าในตนได้สำเร็จ จะเริ่มสร้างความหวัง สร้างความต้องการที่จะนำไปสู่ความสำเร็จตามความฝันของตน

          2. กำหนดเป้าหมายที่ต้องการ เพื่อที่จะก้าวไปสู่ความต้องการอันยิ่งใหญ่ บุคคลจะต้องเริ่มด้วยการกำหนดเป้าหมาย  เพราะการมีเป้าหมายทำให้เกิดงาน ยิ่งเป็นคนที่ชอบผัดวันประกันพรุ่ง ก็ยิ่งจำเป็นจะต้องมีเป้าหมาย  และจงจำไว้ว่า เป้าหมายที่สามารถบรรลุได้ นำไปสู่เป้าหมายระยะยาว ฉะนั้น บุคคลจึงต้องเริ่มด้วยการทำเป้าหมายระยะสั้นให้สำเร็จ แต่เป้าหมายนั้นก็ไม่ควรเป็นเป้าหมายที่ต่ำเกินไป

          3. คิดในเชิงบวกเสมอ ความคิดในเชิงบวกมีความจำเป็นต่อความสำเร็จ คนที่มีความคิดในเชิงบวก จะเห็นการเปลี่ยนแปลงเป็นโอกาสเสมอ และวิธีการไปสู่เป้าหมายทั้งหมด ตั้งอยู่บนฐานของความคิด ที่ว่าปัญหาทุกปัญหามีวิธีแก้ และวิธีแก้เหล่านั้นอยู่ที่ตัวเราเอง  ส่วนคนที่มีความคิดในเชิงลบ จะสร้างแต่ความรู้สึกเชิงลบให้กับตน เป็นยาพิษกับทุกๆคนที่อยู่รอบข้าง ทำให้บรรยากาศเป็นพิษ เป็นตัวทำลายความฝันทั้งของตนเองและเพื่อนร่วมงาน

          4. สร้างนิสัยที่ดี ปกตินิสัยจะมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง แต่อาจเป็นได้ทั้งนิสัยที่ดีและนิสัยที่ไม่ดี มีทั้งที่ก่อให้เกิดประโยชน์และก่อให้เกิดโทษแก่ตนเอง นิสัยที่ดีจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดความล้มเหลว ป้องกันความขี้เกียจ ส่วนนิสัยที่ไม่ดี จะทำให้บุคคลทำผิดซ้ำๆ

          5. ชำนาญในศิลปะการสื่อสาร ทักษะอย่างหนึ่งที่ควรจะปลุกฝัง ก็คือทักษะในการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ เพราะการสื่อสารที่ชัดเจนกับ เจ้านาย ลูกจ้าง เพื่อร่วมงาน ลูกๆ ตลอดจนคู่สมรส เป็นส่วนสำคัญต่อความสำเร็จ  ถ้าหากบุคคลไม่สามารถสื่อสารกับคนอื่น จะทำให้โอกาสของความสำเร็จแคบลง จะต้องระลึกเสมอว่า การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพเป็นเครื่องมือในการแก้ปัญหาที่ดีที่สุด

          6. เรียนรู้จากบทบาทของตัวแบบ คนเราสามารถจะเรียนรู้ได้อย่างมากมายจากบุคคลรอบข้าง คนที่อยู่รอบๆตัวเรามีหลายสิ่งที่น่าจะเรียนรู้ การเรียนรู้จากบุคคลอื่นจะช่วยสร้างประสบการณ์ที่ตนเองขาดไป เป็นบทเรียนที่มีคุณค่า  อย่างไรก็ตาม การคัดเลือกตัวแบบอย่าเลือกเพราะความชอบหรือความพอใจ แต่ต้องเลือกบุคคลที่มีลักษณะที่ช่วยให้เราประสบความสำเร็จ

          7. ต่อสู้กับแรงกดดัน แรงกดดันนำไปสู่ความเครียดที่นำไปสู่ความล้มเหลว  มีหลักง่ายๆที่ใช้ต่อสู้กับแรงกดดัน  คือมองว่าแรงกดดันเป็นเพื่อนโดยมีความเครียดเป็นศัตรู เพราะความเครียดทำให้ความเชื่อมั่นลดลงและเป็นสาเหตุของความสงสัย คือสงสัยว่าจะทำงานได้สำเร็จหรือไม่ เมื่อเกิดความเครียดทำให้คนเราคิดถึงความล้มเหลวแทนความสำเร็จ นอกจากนั้น จะต้องระลึกเสมอว่า ความเครียดเกิดขึ้นได้กับทุกคน เพราะความเครียดเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขัน และเป็นส่วนหนึ่งของสถานที่ทำงาน

          8. มีความเพียรอย่างจริงจัง ความเพียร หมายถึง การทำงานอย่างสม่ำเสมอไม่ยอมเลิกหรือไม่ยอมปล่อย คนที่มีความเพียร จะสามารถยกระดับของความสำเร็จได้สูง คนที่ขาดความเพียร จะเริ่มด้วยความตั้งใจที่ดี แต่จะถอยไปเรื่อยๆ หรือย้ายจากเป้าหมายหนึ่งไปอีกเป้าหมายหนึ่ง โดยหวังว่าเป้าหมายใหม่ทำให้สำเร็จได้ง่ายกว่า

          9. เรียนรู้จากความทุกข์ยาก มีบุคคลหลายคนที่ประสบความสำเร็จ เพราะสามารถเผชิญหน้ากับความทุกข์ยาก และสามารถนำการเรียนรู้จากความทุกข์ยากเหล่านั้นมาใช้จนเอาชนะกรณีแวดล้อม และสามารถก้าวไปข้างหน้าได้ คนเหล่านั้น ทำได้เพราะมีความตั้งใจอย่างจริงจัง ทำงานหนัก เชื่อในตนเองโดยไม่เปลียนแปลง

          10. รักษาความสำเร็จไว้ให้ได้  ความสำเร็จทั้งหลายใช่ว่าจะปราศจากอันตราย  ในความสำเร็จอาจมีกับระเบิด มีอุปสรรคซ่อนอยู่มากมาย มีกับดักที่พร้อมที่จะทำให้คนเราติดกับ ความสำเร็จเป็นกระบวนการที่ไม่เคยสิ้นสุด และไม่มีหลักประกัน มีความสำเร็จวันนี้อาจล้มเหลวพรุ่งนี้ก็ได้ ฉะนั้น เพื่อรักษาความสำเร็จไว้ให้ได้ บุคคลจะต้องเรียนรู้ที่จะบริหารจัดการความสำเร็จ

ฉะนั้น บุคคลจะต้องตระหนักไว้เสมอว่า ความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อมีองค์ประกอบที่นำไปสู่ความสำเร็จทั้ง 10 ประการนี้ ขาดองค์ประกอบใดองค์ประกอบหนึ่งไม่ได้  หากขาด ความล้มเหลวจะเกิดขึ้นได้ทันที
                  ------------------------------------------------------------------

                                                      สาระคิด

วีระบุรุษไม่ได้เป็นบุคคลที่กล้ากว่าคนอื่น เพียงแต่เขากล้านานกว่าคนอื่นเท่านั้นเอง

                                                             Ralph W. Emerson
                              -------------------------------------------------

วันจันทร์ที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2559

ความดีงาม 7 ประการที่ช่วยให้บุคคลประสบความสำเร็จในชีวิต

การดำรงชีวิตอย่างมีเป้าหมาย นอกจากจะมีการกำหนดเป้าหมายและดำเนินการตามเป้าหมายแล้ว จำเป็นอย่างยิ่งที่บุคคลจะต้องมีความดีงามในตน ทั้งนี้ เพื่อรักษาความสำเร็จไว้ให้ได้
 
ความดีงามที่ควรมีอยู่ในบุคคลที่ช่วยให้ประสบความสำเร็จ ประกอบด้วย

          1. ความอดทน เป็นความสามารถในการอดกลั้นต่อความเดือดร้อน ความทุกข์ทรมานทางกายหรือจิตใจ โดยไม่เปิดโอกาสให้ความเครียดเข้าครอบงำ มีความหนักแน่นมั่นคง ในการที่จะเผชิญกับภยันตราย และความทุกข์ร้อนทั้งปวง  ความอดทนเป็นพลังใจให้สามารถยืนหยัดต่อสู่กับสิ่งที่ไม่พึงปรารถนาได้เป็นเวลานาน โดยไม่เกิดความท้อถอย ดังนั้น ความอดทนจึงเป็นสัญลักษณ์ของชัยชนะ

          2. ความมีไหวพริบ เป็นความสามารถที่จะปรับสภาพตนเองโดยใช้สติปัญญา และมีระเบียบวินัยอย่างมีเหตุผล

          3. ความพอเหมาะพอควร เป็นการมีนิสัยที่พอเหมาะพอดีไม่มากไม่น้อยเกินไป ไม่ว่าในการกินอาหารเพื่อสนองความหิว หรือในการแสวงหาสิ่งต่างๆเพื่อสนองความต้องการ 

          4. ควายุติธรรม เป็นหลักในการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์ ที่ช่วยให้มนุษย์อยู่กันอย่างเป็นธรรม ประพฤติตนอยู่ในกรอบของศีลธรรมและกฎของสังคม ไม่ทำชั่วด้วยการสร้างความเสียหายให้กับผู้อื่น หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ในสิ่งเป็นประโยชน์ที่ผู้อื่นควรได้รับ

          5. ความหวัง เป็นความต้องการอย่างมาดมั่น ในสิ่งที่พึงปรารถนา หรือเชื่อว่าจะได้สิ่งที่พึงปรารถนา

          6. ศรัทธา เป็นความเชื่อ หรือความไว้วางใจในสิ่งที่ดีงาม หรือบุคคลที่ประเสริฐ

          7. ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ เป็นพฤติกรรมที่แสดงออกต่อมนุษย์ด้วยกัน  ด้วยความรักดุจพี่น้อง ความมีไมตรี ความเห็นใจ และการช่วยเหลือผู้อื่น ตลอดจนมีความอดทนต่อการกระทำของผู้อื่นอย่างมีใจเมตตากรุณา

ความดีงามทั้ง 7 ประการนี้ จะช่วยให้บุคคลประสบความสำเร็จและรักษาความสำเร็จไว้ได้
                  --------------------------------------------------------------------------

                                                                สาระคำ

นิสัย เป็นลักษณะที่เกิดจาก ความรู้ ทักษะ และความปรารถนา นิสัยสามารถเรียนรู้เพื่อสร้างและเพื่อการเปลี่ยนแปลงได้

                                                                        Stephen  R. Covey
                                  --------------------------------------------------------

วันจันทร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2559

หลัก 17 ประการเพื่อความสำเร็จในชีวิต

Napoleon Hill และ Clement W. Stone ได้เขียนหนังสือ ชื่อ Success Through A Positive Mental Attitude. สรุปว่า คนเราจะประสบความสำเร็จได้ ถ้าดำเนินชีวิตโดยยึดหลัก  17 ประการต่อไปนี้

               1. ทัศนคติเชิงบวก

               2. เป้าหมายของชีวิตที่ชัดเจน

               3. ทำมากกว่าคนอื่น

               4. ความคิดที่ถูกต้อง

               5. วินัยในตนเอง

               6. จิตใจที่จะเอาชนะ

               7. ใช้ศรัทธาให้เกิดประโยชน์

               8. บุคลิกภาพน่าพอใจ

               9. ริเริ่มเรื่องต่างๆด้วยตนเอง

               10. ความกระตือรือร้น

               11. ความพยายามอย่างมุ่งมั่น

               12. ทำงานเป็นทีม

               13. เรียนรู้จากความพ่ายแพ้

               14. วิสัยทัศน์เชิงสร้างสรรค์

               15. รู้จักจัดสรรเวลาและการเงิน

               16. สุขภาพกายและจิตดี

               17. ใช้หลักสากลตัดสินในกรณีต่างๆ

หลักทั้ง 17 ประการนี้ ผู้เขียนอ้างว่าไม่ได้คิดขึ้นเอง   แต่ดึงเอามาจากประสบการณ์ตลอดชีวิต ของผู้ที่ประสบความสำเร็จเป็นจำนวนหลายร้อยคน จึงเชื่อได้ว่าหากผู้ใดนำไปปฏิบัติได้ครบถ้วนและจริงจัง จะประสบความสำเร็จในชีวิตอย่างแน่นอน
              -----------------------------------------------------------------------------

                                                 สาระคิด

           กุญแจสำคัญของความเป็นเลิศ คือ เป็นให้ดีที่สุดในสิ่งที่ท่านเป็นได้
                                  ----------------------------------------------