การศึกษาขั้นพื้นฐานนอกจากจะจัดในระบบโรงเรียนแล้ว ยังสามารถจัดในรูปแบบอื่น ซึ่งได้แก่ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย แต่ปกติจะให้ความสำคัญกับการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานในระบบโรงเรียนมากกว่า
อย่างไรก็ตาม การเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วของการศึกษาในระบบ ก่อให้เกิดปัญหาตามมามากมาย ที่สำคัญคือ ผู้จบการศึกษามีคุณถาพต่ำลง ขาดความรู้พื้นฐานและทักษะชีวิตที่จำเป็นต่อการปรับปรุงชีวิตให้ดีขึ้น
จากการศึกษาวิเคราะห์พบว่า ปัญหาการศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่เกิดขึ้นจนกลายเป็นวิกฤตการณ์ทางการศึกษา เกิดจากเหตุปัจจัยต่อไปนี้
การขาดแคลนทรัยากร เพื่อสนองตอบทางการศึกษาที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ต้องเพิ่มทรัพยากรทางการศึกษา ซึ่งได้แก่ครูบาอาจารย์ อาคารสถานที่ อุปกรณ์ทางการศึกษา ตำราเรียนและงบประมาณ จนทำให้เกิดการขาดแคลนอย่างรุนแรง ไม่ทันต่อความต้องการทางการศึกษา ทำให้ระบบการศึกษาเกิดข้อจำกัดมากมาย ไม่สามารถสามารถสนองตอบความต้องการทางการศึกษาได้อย่างเป็นที่น่าพอใจ
ค่าใช้จ่ายสูงขึ้น การมีทรัพยากรจำกัด ทำให้ค่าใช้จ่ายต่อหัวของผู้เรียนมีแนวโน้มสูงขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับค่าใช้จ่ายด้านอื่นๆของประเทศ นอกจากนั้น การมีเงินเฟ้อในบางปะเทศ มีผลกระทบต่องบประมาณทางการศึกษาและรายได้ของครูอาจารย์
ผลผลิตไม่มีความเหมาะสม ความพยายามที่มุ่งสนองตอบความต้องการทางการศึกษา ทำให้การศึกษามีคุณภาพไม่ดีพอ ผู้จบการศึกษาจากโรงเรียนในชนบทจะด้อยกว่าผู้จบการศึกษาในเมือง โดยเฉพาะอย่างยิ่งจะอ่อนด้อยวิชาที่เกี่ยวกับการอ่าน คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ และที่สำคัญคือไม่มีความรู้และทักษะตามที่กำหนดไว้ในหลักสูตร นอกจากนั้น ยังพบว่าผลผลิตทางการศึกษาไม่ส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอีกด้วย
การบริหารการศึกษาขาดประสิทธิภาพ ระบบการศึกษาเอง ถ้าจะทำงานในลักษณะอย่างที่เคยทำมา จัดการศึกษาแบบเดิมซึ่งเคยได้ผล เช่น การบริหารหลักสูตร วิธีสอน ฯลฯ แบบเดิมๆ ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ใหม่ๆ การทำอย่างที่เคยทำ กลายเป็นการกระทำที่ทำให้เกิดผลที่แย่กว่าเดิม จนเกิดความเฉื่อยทางการศึกษา มีผลกระทบต่อคุณภาพอย่างมาก
ความเฉื่อยทางสังคม ทัศนคติแบบเดิม ประเพณี ศักดิ์ศรี และรูปแบบของสิ่งล่อใจ ตลอดจนโครงสร้างของสถาบันทางสังคม บางครั้ง กลายเป็นสิ่งปิดกั้นไม่ให้ใช้ประโยชน์จากระบบการศึกษาเพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ที่เอื้อต่อการพัฒนาประเทศได้สูงสุด
การออกกลางคันและการซ้ำชั้น ปัญหาการออกกลางคันและการซ้ำชั้น เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับนักเรียนที่มีภูมิหลังทางเศรษฐกิจและสังคมต่ำ เกิดขึ้นกับนักเรียนในชนบทมากกว่าในเมือง โดยสาเหตุมาจากความยากจน หลักสูตรและการสอนที่ไม่เหมาะสม เป็นหลักสูตรที่จัดทำขึ้นเพื่อนักเรียนส่วนน้อยที่เรียนต่อในระดับอุดมศึกษา ครูไม่ได้รับการฝึกอบรม ขาดวัสดุ ตำราเรียน การออกกลางคัน และการซ้ำชั้นจึงเกิดขึ้น แต่อาจมีบางประเทศที่มีนโยบายไม่ให้มีการซ้ำชั้น ผลก็คือ นักเรียนอานหนังสือไม่ออก
ปัญหาที่กล่าวมา เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในประเทศกำลังพัฒนา ไม่เว้นแม้แต่ประเทศไทย จึงเป็นโอกาสดีของประเทศที่จะปฏิรูปการศึกษา ให้เป็นการศึกษาที่สามารถตอบโจทย์ของประเทศได้อย่างดี แต่การปฏิรูปจะต้องไม่มุ่งแต่การเพิ่มหรือลดหน่วยงานบริหารการศึกษาเพียงอย่างเดียวอย่างที่เคยทำมา แต่ควรให้ความสำคัญในการที่จะแก้ปัญหาดังที่กล่าวมาแล้วอย่างจริงจัง การปฏิรุปการศึกษาจึงจะเกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ที่มีคุณค่าต่อการพัฒนาประเทศอย่างแท้จริง
-------------------------------------------------------------------
สาระคำ
ทรัพยากรมนุษย์ประกอบด้วยส่วนสำคัญ 2 ส่วน คือตัวมนุษย์เอง เป็นส่วนที่ติดตัวมาแต่กำเนิด กับทักษะและความสามารถของมนุษย์ ที่เกิดจากกาสร้างสมประสบการณ์ในภายหลัง
---------------------------------------
วันพุธที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557
วันพุธที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557
ทัศนคติกับการเปลี่ยนแปลงของโรงเรียน
ในยุคที่สังคมมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การเรียนการสอนและโรงเรียนจะมีประสิทธิผลได้ก็ต่อเมื่อ โรงเรียนพร้อมที่จะเปลี่ยนแปลง โรงเรียนที่เปลี่ยนแปลงได้เร็วและทันกับการเปลียนแปลงทางสังคมและเทคโนโลยีเท่านั้น จึงจะเป็นโรงเรียนที่มีประสิทธิผล คือบรรลุตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
แต่พบว่าแต่ละโรงเรียนมีการเปลี่ยนแปลงเร็วช้าต่างกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับทัศนคติที่มีต่อการเปลี่ยนแปลงของแต่ละโรงเรียนต่างกัน ซึ่งทัศนคติที่มีต่อการเปลี่ยนแปลงแบ่งได้ 4 แบบด้วยกัน กล่าวคือ
แบบที่ 1 เป็นโรงเรียนที่ครูไม่สนใจการเปลี่ยนแปลงมากนัก โดยเห็นว่าได้พยายามเปลี่ยนแปลงแล้ว แต่ล้มเหลว เพราะโรงเรียนรู้สึกว่าไม่มีอำนาจ การเปลี่ยนแปลงต่างๆที่เกิดขึ้น เกิดจากปัจจัยภายนอกมากกว่า หากมีการเปลี่ยนแปลงก็เป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากความจำเป็น แม้จะรู้สึกว่าไม่ทำให้อะไรดีขึ้นมาก็ตาม เช่น การเปลี่ยนแปลงหลักสูตร เป็นต้น
แบบที่ 2 เป็นโรงเรียนที่เริ่มใช้นวัตกรรม แต่เป็นการเริ่มใช้นวัตกรรมที่มีความแตกต่างอยู่มาก นวัตกรรมถูกใช้ไม่เต็มที่ หรือไม่ได้ใช้ทั้งโรงเรียน ต่างคนต่างพัฒนา ต่างคนต่างใช้ ตามแนวคิดของตน โดยปราศจากการวางแผนร่วมกัน จึงมีเป้าหมายในการใช้นวัตกรรมไม่สอดคล้องกัน ครูมีการแบ่งแยกจึงล้มเหลวไปพร้อมกับนวัตกรรม
แบบที่ 3 เป็นโรงเรียนที่รู้สึกว่าการเปลี่ยนแปลงไม่มีความจำเป็น เพราะโรงเรียนมีความเป็นมาและประสบความสำเร็จที่น่าประทับในในอดีตอันยาวนาน ครู ผู้ปกครองนักเรียน เห็นว่าเมื่อโรงเรียนประสบความสำเร็จมานาน ย่อมเป็นเครื่องประกันว่าจะต้องมีความสำเร็จในอนาคต เพียงแต่โรงเรียนใช้วิธีทำงานแบบเดิมๆ และรู้สึกว่าการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากภายนอก และเป็นเรื่องที่น่าสงสัย
แบบที่ 4 เป็นโรงเรียนที่มีความผสมกลมกลืนระหว่างการเปลี่ยนแปลงกับความมั่นคง โรงเรียนยอมรับการเปลี่ยนแปลง และมีความปรารถนาที่จะปรับปรุงให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทิศทางการเปลี่ยนแปลงมีการวางแผนอย่างดี คณะครูมีความชัดเจนว่าขณะนี้กำลังทำอะไรอยู่ และจะก้าวไปในทิศทางใด ตลอดจนยอมรับแรงผลักดันที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจากภายนอกด้วยความเต็มใจ
ในบรรดาโรงเรียนทั้ง 4 แบบ แบบที่ 4 เป็นแบบของโรงเรียนที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ทันกับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและเทคโนโลยี โรงเรียนแบบที่ 4 จึงเป็นลักษณะของโรงเรียนที่พึงประสงค์ในยุคของการเปลี่ยนแปลง
-------------------------------------------------------------------------------
สาระคำ
ทรัพยากรมนุษย์ เป็นพลังงาน ทักษะ และความรู้ของมนุษย์ ที่สามารถนำไปใช้ผลิตสินค้าและบริการ ที่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่สังคม
Harbison
----------------------------------------------------------
แต่พบว่าแต่ละโรงเรียนมีการเปลี่ยนแปลงเร็วช้าต่างกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับทัศนคติที่มีต่อการเปลี่ยนแปลงของแต่ละโรงเรียนต่างกัน ซึ่งทัศนคติที่มีต่อการเปลี่ยนแปลงแบ่งได้ 4 แบบด้วยกัน กล่าวคือ
แบบที่ 1 เป็นโรงเรียนที่ครูไม่สนใจการเปลี่ยนแปลงมากนัก โดยเห็นว่าได้พยายามเปลี่ยนแปลงแล้ว แต่ล้มเหลว เพราะโรงเรียนรู้สึกว่าไม่มีอำนาจ การเปลี่ยนแปลงต่างๆที่เกิดขึ้น เกิดจากปัจจัยภายนอกมากกว่า หากมีการเปลี่ยนแปลงก็เป็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากความจำเป็น แม้จะรู้สึกว่าไม่ทำให้อะไรดีขึ้นมาก็ตาม เช่น การเปลี่ยนแปลงหลักสูตร เป็นต้น
แบบที่ 2 เป็นโรงเรียนที่เริ่มใช้นวัตกรรม แต่เป็นการเริ่มใช้นวัตกรรมที่มีความแตกต่างอยู่มาก นวัตกรรมถูกใช้ไม่เต็มที่ หรือไม่ได้ใช้ทั้งโรงเรียน ต่างคนต่างพัฒนา ต่างคนต่างใช้ ตามแนวคิดของตน โดยปราศจากการวางแผนร่วมกัน จึงมีเป้าหมายในการใช้นวัตกรรมไม่สอดคล้องกัน ครูมีการแบ่งแยกจึงล้มเหลวไปพร้อมกับนวัตกรรม
แบบที่ 3 เป็นโรงเรียนที่รู้สึกว่าการเปลี่ยนแปลงไม่มีความจำเป็น เพราะโรงเรียนมีความเป็นมาและประสบความสำเร็จที่น่าประทับในในอดีตอันยาวนาน ครู ผู้ปกครองนักเรียน เห็นว่าเมื่อโรงเรียนประสบความสำเร็จมานาน ย่อมเป็นเครื่องประกันว่าจะต้องมีความสำเร็จในอนาคต เพียงแต่โรงเรียนใช้วิธีทำงานแบบเดิมๆ และรู้สึกว่าการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากภายนอก และเป็นเรื่องที่น่าสงสัย
แบบที่ 4 เป็นโรงเรียนที่มีความผสมกลมกลืนระหว่างการเปลี่ยนแปลงกับความมั่นคง โรงเรียนยอมรับการเปลี่ยนแปลง และมีความปรารถนาที่จะปรับปรุงให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทิศทางการเปลี่ยนแปลงมีการวางแผนอย่างดี คณะครูมีความชัดเจนว่าขณะนี้กำลังทำอะไรอยู่ และจะก้าวไปในทิศทางใด ตลอดจนยอมรับแรงผลักดันที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงจากภายนอกด้วยความเต็มใจ
ในบรรดาโรงเรียนทั้ง 4 แบบ แบบที่ 4 เป็นแบบของโรงเรียนที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ทันกับการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและเทคโนโลยี โรงเรียนแบบที่ 4 จึงเป็นลักษณะของโรงเรียนที่พึงประสงค์ในยุคของการเปลี่ยนแปลง
-------------------------------------------------------------------------------
สาระคำ
ทรัพยากรมนุษย์ เป็นพลังงาน ทักษะ และความรู้ของมนุษย์ ที่สามารถนำไปใช้ผลิตสินค้าและบริการ ที่ก่อให้เกิดประโยชน์แก่สังคม
Harbison
----------------------------------------------------------
วันพุธที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557
หัวหน้าสถานศึกษากับความสำเร็จตามภาระกิจของโรงเรียน
โรงเรียนมีภาระกิจที่สำคัญอยู่ 4 ประการ คือ พัฒนา ความรู้ วิธีการ ปัญญา และลักษณะนิสัย
ประเทศสมาชิกองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา เห็นพ้องต้องกันว่า ความเป็นผู้นำของผู้บริหารโรงเรียนในเชิงบวก เป็นสิ่งจำเป็นอันดับแรกต่อการบริหารจัดการให้ภาระกิจประสบความสำเร็จ จากการศึกษาวิจัยพบว่า
ในสหราชอาณาจักร จากการศึกษาโรงเรียนมัธยมศึกษา 10 แห่ง พบว่าปัจจัยเดี่ยวที่สำคัญที่สุดต่อความสำเร็จ คือคุณภาพของความเป็นผู้นำของโรงเรียน เพราะหัวหน้าสถานศึกษามีบทบาทสำคัญในการพัฒนาหลักสูตร การประเมิน การฝึกอบรม ตลอดจนการส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีกับชุมชนโดยรอบ
ในสหรัฐอเมริกา จากการศึกษาพบว่าหัวหน้าสถานศึกษามีอิทธิพลต่อการตอบสนองของครู ในการริเริ่มที่จะปรับปรุงโรงเรียนให้ดีขึ้น มีอิทธิพลอย่างสำคัญต่อการรับความคิดใหม่ๆของครู
ในทวีปยุโรป ซึ่งมีรูปแบบการบริหารที่มีการควบคุมจากส่วนกลาง หัวหน้าสถานศึกษาได้รับการคาดหวังว่า จะมีบทบาทในการส่งเสริมการสอน ปรับปรุงคุณภาพการศึกษาให้ดีขึ้น
โรงเรียนที่มีประสิทธิผล จึงต้องมีหัวหน้าสถานศึกษาที่เข้มแข็ง อุทิศเวลาให้กับการประสานงาน การจัดการเกี่ยวกับการสอน ใกล้ชิดกับการสอน เป็นผู้นำในเชิงสร้างสรรค์ ใช้ท่าทีของความเป็นผู้นำอย่างเหมาะสม รู้จักแก้ปัญหาด้วยการอาศัยความร่วมมือ การตัดสินใจโดยกลุ่ม รู้จักมอบอำนาจ เปิดโอกาสให้ครู ผู้ปกครอง ชุมชน นักธุรกิจ นักการศึกษา และตัวนักเรียนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจและการจัดการ ใช้ตำแหน่งผู้บริหารเพื่อประโยชน์ของครูและนักเรียนเป็นสำคัญ สอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้บริการมากขึ้น
นั่นคือ หัวหน้าสถานศึกษาที่เข้มแข็ง จะทำให้โรงเรียนประสบความสำเร็จตามภาระกิจที่กำหนดไว้อย่างมีประสิทธิผล
-------------------------------------------------------------------------------------
สาระคิด
The thing that upsets people is not what happens but what they think it means.
Andrew Weil
---------------------------------------
ประเทศสมาชิกองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา เห็นพ้องต้องกันว่า ความเป็นผู้นำของผู้บริหารโรงเรียนในเชิงบวก เป็นสิ่งจำเป็นอันดับแรกต่อการบริหารจัดการให้ภาระกิจประสบความสำเร็จ จากการศึกษาวิจัยพบว่า
ในสหราชอาณาจักร จากการศึกษาโรงเรียนมัธยมศึกษา 10 แห่ง พบว่าปัจจัยเดี่ยวที่สำคัญที่สุดต่อความสำเร็จ คือคุณภาพของความเป็นผู้นำของโรงเรียน เพราะหัวหน้าสถานศึกษามีบทบาทสำคัญในการพัฒนาหลักสูตร การประเมิน การฝึกอบรม ตลอดจนการส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีกับชุมชนโดยรอบ
ในสหรัฐอเมริกา จากการศึกษาพบว่าหัวหน้าสถานศึกษามีอิทธิพลต่อการตอบสนองของครู ในการริเริ่มที่จะปรับปรุงโรงเรียนให้ดีขึ้น มีอิทธิพลอย่างสำคัญต่อการรับความคิดใหม่ๆของครู
ในทวีปยุโรป ซึ่งมีรูปแบบการบริหารที่มีการควบคุมจากส่วนกลาง หัวหน้าสถานศึกษาได้รับการคาดหวังว่า จะมีบทบาทในการส่งเสริมการสอน ปรับปรุงคุณภาพการศึกษาให้ดีขึ้น
โรงเรียนที่มีประสิทธิผล จึงต้องมีหัวหน้าสถานศึกษาที่เข้มแข็ง อุทิศเวลาให้กับการประสานงาน การจัดการเกี่ยวกับการสอน ใกล้ชิดกับการสอน เป็นผู้นำในเชิงสร้างสรรค์ ใช้ท่าทีของความเป็นผู้นำอย่างเหมาะสม รู้จักแก้ปัญหาด้วยการอาศัยความร่วมมือ การตัดสินใจโดยกลุ่ม รู้จักมอบอำนาจ เปิดโอกาสให้ครู ผู้ปกครอง ชุมชน นักธุรกิจ นักการศึกษา และตัวนักเรียนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจและการจัดการ ใช้ตำแหน่งผู้บริหารเพื่อประโยชน์ของครูและนักเรียนเป็นสำคัญ สอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้บริการมากขึ้น
นั่นคือ หัวหน้าสถานศึกษาที่เข้มแข็ง จะทำให้โรงเรียนประสบความสำเร็จตามภาระกิจที่กำหนดไว้อย่างมีประสิทธิผล
-------------------------------------------------------------------------------------
สาระคิด
The thing that upsets people is not what happens but what they think it means.
Andrew Weil
---------------------------------------
วันพฤหัสบดีที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557
หน้าที่ของโรงเรียน
โรงเรียนก็เหมือนสถาบันการศึกษาโดยทั่วๆไป คือมีหน้าที่ เปลี่ยนแปลง เสริมสร้าง และถ่ายทอดสิ่งที่มีคุณค่าให้กับสมาชิกในสังคม เพื่อให้เป็นสมาชิกที่สังคมพึงปรารถนา
โรงเรียนเป็นองค์กรสำคัญในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยทั่วไปโรงเรียนจะต้องจัดให้ผู้เรียนมีโอกาสที่จะพัฒนาในเรื่องต่อไปนี้
ความรู้ (Knowledge) ความรู้จะช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจเรื่องต่างๆได้
วิธีการ (Know how) เป็นความรู้ที่ช่วยให้ผู้เรียนสามารถทำสิ่งต่างๆได้ เป็นความรู้ที่สามารถประยุกต์เพื่อการปฏิบัติงานที่ซับซ้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความรู้ทางเทคนิค
ปัญญา (Wisdom) ปัญญาช่วยให้ผู้เรียนสามารถจัดลำดับความสำคัญของสิ่งต่างๆได้
ลักษณะนิสัย (Character) ลักษณะนิสัยช่วยให้ผู้เรียนมีความสามารถที่จะที่จะประสานงาน มีความพากเพียร กลายเป็นสมาชิกของสังคมที่ได้รับการยอมรับ ได้รับการไว้วางใจจากสังคม
ทั้ง 4 ประการเป็นเนื้อหาการศึกษาที่โรงเรียนจัดขึ้น แต่ในทางทฤษฎี การจัดการศึกษาจะพิจารณาแต่เพียงเนื้อหาอย่างเดียวไม่พอ จะต้องพิจารณาถึงระบบ สภาพแวดล้อม รูปแบบ และกระบวนการที่จำเป็นต่อการใช้เนื้อหาด้วย
---------------------------------------------------------------
สาระคิด
ความฉลาดทางอารมณ์ เป็นความสามารถเข้าใจอารมณ์ของตนเองและอารมณ์ของผู้อื่น เพื่อเป็นแรงจูงใจให้ตนเอง และเพื่อจัดการกับอารมณ์ของตนเองและผู้อื่นอย่างเหมาะสม
แดเนียล โกลแมน
โรงเรียนเป็นองค์กรสำคัญในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยทั่วไปโรงเรียนจะต้องจัดให้ผู้เรียนมีโอกาสที่จะพัฒนาในเรื่องต่อไปนี้
ความรู้ (Knowledge) ความรู้จะช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจเรื่องต่างๆได้
วิธีการ (Know how) เป็นความรู้ที่ช่วยให้ผู้เรียนสามารถทำสิ่งต่างๆได้ เป็นความรู้ที่สามารถประยุกต์เพื่อการปฏิบัติงานที่ซับซ้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความรู้ทางเทคนิค
ปัญญา (Wisdom) ปัญญาช่วยให้ผู้เรียนสามารถจัดลำดับความสำคัญของสิ่งต่างๆได้
ลักษณะนิสัย (Character) ลักษณะนิสัยช่วยให้ผู้เรียนมีความสามารถที่จะที่จะประสานงาน มีความพากเพียร กลายเป็นสมาชิกของสังคมที่ได้รับการยอมรับ ได้รับการไว้วางใจจากสังคม
ทั้ง 4 ประการเป็นเนื้อหาการศึกษาที่โรงเรียนจัดขึ้น แต่ในทางทฤษฎี การจัดการศึกษาจะพิจารณาแต่เพียงเนื้อหาอย่างเดียวไม่พอ จะต้องพิจารณาถึงระบบ สภาพแวดล้อม รูปแบบ และกระบวนการที่จำเป็นต่อการใช้เนื้อหาด้วย
---------------------------------------------------------------
สาระคิด
ความฉลาดทางอารมณ์ เป็นความสามารถเข้าใจอารมณ์ของตนเองและอารมณ์ของผู้อื่น เพื่อเป็นแรงจูงใจให้ตนเอง และเพื่อจัดการกับอารมณ์ของตนเองและผู้อื่นอย่างเหมาะสม
แดเนียล โกลแมน
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)