วันจันทร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ลักษณะการบริหารจัดการองค์กรทางธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ

ความสำเร็จขององค์กรทางธุรกิจคือกำไร  มีกำไรมากประสบความสำเร็จมาก มีกำไรน้อยประสบความสำเร็จน้อย

การที่องค์กรทางธุรกิจจะสำเร็จได้  ก็โดยอาศัยปัจจัยพื้นฐาน 2 ประการ คือมีผลิตภัณฑ์เป็นที่ต้องการของลูกค้า กับการบริหารจัดการทีมีประสิทธิภาพ

การบริหารจัดการที่นำไปสู่ความสำเร็จทางธุรกิจ มีลักษณะดังต่อไปนี้

          1.มีการสื่อสารทั้งในแนวตั้งและแนวนอน ทั้งองค์กรมีการสื่อสารกันทุกระดับ คือ มีการสื่อสารระหว่างผู้บริหารกับพนักงาน และพนักงานกับพนักงานด้วยกัน เพื่อนำไปสู่การสร้างความพยายาม ความสามารถพิเศษ และพลังสร้างสรรค์ การสื่อสารอาจใช้ทั้งที่เป็นระบบและไม่เป็นระบบ ทั้งด้วยการประชุม  พบปะสนทนา หรือจัดชั่วโมงทางสังคมอื่นๆ

          2. มีโครงสร้างที่เป็นทางการน้อย การเพิ่มการสื่อสารและอำนวยความสะดวกเป็นเรื่องจำเป็น เพื่อให้ทุกคนได้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจ แต่โครงสร้างที่เป็นทางการตามลำดับชั้นไม่สามารถเพิ่มการสื่อสารได้ จึงจำเป็นที่องค์กรจะต้องจัดให้มีกลุ่มย่อยๆเพื่อแก้ปัญหาที่ซับซ้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งปัญหาเรื่องคุณภาพ

          3. มีการมอบอำนาจอย่างเหมาะสม องค์กรที่ประสบความสำเร็จจะต้องมีการมอบหมายงาน ตามระดับการทำงานที่เหมาะสม ทั้งนี้เพื่อให้แต่ละคนได้ริเริ่มและมีการสร้างสรรค์ โดยผู้บริหารระดับอาวุโสมุ่งเฉพาะเรื่องสำคัญๆ นอกจากนั้นการมอบอำนาจ ยังช่วยให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในองค์กรมากว่าการใช้อำนาจสั่งการ

          4. มีการตรวจสอบทุกระดับ  การตรวจสอบจะต้องมีควบคู่กับการมอบอำนาจ  การตรวจสอบทำให้ทุกคนเกิดความรับผิดชอบ และสนับสนุนองค์กรได้เต็มที่ นอกจากนั้น การตรวจสอบส่งเสริมการไว้เนื้อเชื่อใจ และกระตุ้นความรับผิดชอบมากขึ้น  การตรวจสอบอาจจะเป็นทางการ หรือไม่เป็นทางการก็ได้

          5. มีการยอมรับความพยายามของพนักงาน กล่าวคือ พนักงานทุกคนต้องการการยอมรับในความพยายามและความสำเร็จ และการยอมรับยังทำให้เกิดความรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จขององค์กร  องค์กรที่ประสบความสำเร็จจะต้องมีการเสริมแรงในเชิงบวกในการปฏิบัติงาน หาทางแสดงถึงความรู้สึกขอบคุณพนักงานที่มีส่วนสำคัญในการช่วยให้องค์กรประสบความสำเร็จ

          6. มีการกำหนดวัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์ที่ชัดเจน  กลยุทธ์ขององค์กรจะต้องเป็นไปเพื่อสนองความต้องการของตลาด วัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์จะต้องเน้นการทำในสิ่งที่ถูกต้อง คือ ไม่มุ่งกำไรโดยลดคุณภาพ ไม่มุ่งสนองตอบผู้ถือหุ้นโดยไม่สนใจลูกค้า  และไม่คำนึงถึงเฉพาะปริมาณโดยไม่คำนึงถึงปัจจัยด้านคุณภาพ

          7. มีการส่งเสริมความคิดและนวัตกรรมที่สร้างสรรค์  องค์กรที่ประสบความสำเร็จ จะต้องมุ่งที่การเพิ่มผลิตภาพด้วยผลงานใหม่ๆ ซึ่งเป็นผลงานของพนักงาน    ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ก็โดยการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างผู้บริหารและพนักงาน โดยแสดงให้พนักงานเห็นว่า จะเพิ่มผลิตภาพได้อย่างไร  ในขณะเดียวกันผู้บริหารจะต้องให้ความสะดวก สร้างขวัญ กำลังใจ ความมุ่งมั่น และเอกลักษณ์ของพนักงานแต่ละบุคคล  ตลอดจน กระตุ้นให้แต่ละคนได้ใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ ตามวัตถุประสงค์ขององค์กร

          8. มีวัฒนธรรมของความร่วมมือ องค์กรทางธุรกิจที่ประสบความสำเร็จจะต้องมีวัฒนธรรมของความร่วมมือไม่ใช่ต่างคนต่างทำ คือทุกคนในองค์กรนับตั้งแต่ผู้บริหารตลอดจนพนักงานทุกระดับ จะต้องมี ความคิด ความเชื่อ และ ค่านิยม ในการที่จะทำงานร่วมกัน เพื่อให้องค์กรประสบความสำเร็จตามเป้าหมาย และมีการร่วมมือปฏิบัติเพื่อไปสู่เป้าหมายนั้นอย่างจริงจัง

ลักษณะการบริหารองค์กรทางธุรกิจดังกล่าวนี้ หากองค์กรใดนำไปใช้และร่วมกันปฏิบัติอย่างจริงจัง เชื่อว่าองค์กรนั้นจะประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
               ---------------------------------------------------------------------

                                                สาระคิด

จากการศึกษาพบว่า ประมาณร้อยละ 85 ของความสำเร็จทางธุระกิจ เกิดจากการมีทักษะเกี่ยวกับคน และอีกร้อยละ 15  เกิดจากความรู้ทางเทคนิค
                                --------------------------------------------

วันจันทร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความสำเร็จในชีวิต

ความสำเร็จในชีวิต ไม่ได้ขึ้นอยู่กับโชคชะตา  แต่ขึ้นอยู่กับความคิดและการกระทำของตนเอง ในการที่จะสร้างปัจจัยต่างๆ  ให้เอื้อต่อการที่จะก้าวไปข้างหน้าสู่ความสำเร็จ

จากการศึกษาทางจิตวิทยาพบว่า ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จในชีวิตของคนเราประกอบด้วย

          1. เจตคติในเชิงบวก เจตคติเป็นตัวกำหนดการเปลี่ยนแปลง และความสำเร็จทั้งหมด เจตคติเป็นตัวกำหนดทีท่าที่มีต่อโลก ต่อข่าวสาร และต่อตัวเราเอง

เจตตติเชิงบวกจะนำจะนำชีวิตไปสู่ความสำเร็จตามเป้าหมาย ส่วนเจตคติเชิงลบจะนำชีวตไปสู่ความล้มเหลว

คนที่มีเจตคติในเชิงบวก คือผู้ที่มองเห็นโอกาสในทุกปัญหา ส่วนผู้ที่มีเจตคติในเชิงลบเป็นผู้มองเห็นปัญหาและอุปสรรคในทุกโอกาส

          2. เชื่อในตนโดยไม่มีข้อสงสัย หากต้องการจะประสบความสำเร็จ บุคคลจะต้องเชื่อมั่นในตน  เชื่อในความสามารถของตน  เพราะคนเราจะเป็นอย่างที่เราคิด

อย่างไรก็ตาม  จะต้องคิดในสิ่งที่เชื่ออย่างรอบคอบ เพราะหากตัดสินใจผิดพลาด จะมีผลให้ บุคคลทำงานสำเร็จได้ต่ำกว่าความสามารถที่แท้จริง

ความเชื่อมั่นในตน  จะทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างอยู่ในที่ๆเหมาะสม และช่วยการกำหนดเป้าหมายที่มีความหมายและท้าทาย

          3. เป้าหมายที่ใหญ่และท้าทาย  คนซึ่งกิน ดื่ม สูบบุหรี่ ขะโมย เสพยาเสพติด ฆ่าตัวตาย ส่วนใหญ่เป็นคนที่ขาดทิศทางของชีวิต ดำเนินชีวิตไปเรื่อยๆ มากกว่าที่จะมีเป้าหมายเฉพาะว่าชีวิตต้องการอะไร

การมีเป้าหมายชีวิต มีความจำเป็นต่อการเปลี่ยนแปลงและการปรับปรุงชีวิตให้ดีขึ้น มีความหมายมากขึ้น การมีเป้าหมายที่ชัดเจน ทำให้ชีวิตมีทิศทางที่ชัดเจน

จาการศึกษาผู้ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงในชีวิต พบว่า ทุกคนเริ่มด้วยการมีเป้าหมายและมีความมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมาย ซึ่งเป้าหมายนั้น อาจเป็นเป้าหมายเกี่ยวกับ ทางกายภาพ ทางจิตใจ หรือทางจิตวิญญาณ หรืออาจเป็นเป้าหมายที่เกี่ยวกับทุกเรื่องในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องส่วนตัว พ่อแม่ หรืออาชีพ

          4. ความรับผิดชอบ ถ้าต้องการจะประสบความสำเร็จ จะต้องมีความรับผิดชอบ ปกติมนุษย์จะรับผิดชอบในสิ่งที่ทำได้ดี และไม่รับผิดชอบในสิ่งที่ทำได้ไม่ดี และเพื่อไม่ต้องรับผิดชอบ มนุษย์จะตำหนิและวิจารณ์คนอื่นเพื่อการแก้ตัว ความจริงแล้ว คนเราไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ด้วยการวิจารณ์คนอื่น หรือมีอารมณ์ในทางลบครอบงำจิตใจ เพราะพฤติกรรมเหล่านี้ เป็นพฤติกรรมที่นำไปสู่ความไม่รับผิดชอบ

          5. การบริหารจัดการเวลา เวลาเป็นสิ่งเดียวที่มีการจัดสรรให้ทุกๆคนเท่ากันหมด ไม่ว่าคนจนหรือคนรวย ผู้หญิงหรือผู้ชาย คนฉลาดหรือคนโง่ แต่ไม่ค่อยมีใครเห็นคุณค่าที่แท้จริงของเวลา โดยใช้เวลาอย่างเปล่าประโยชน์

การรู้จักบริหารจัดการเวลา จะเกี่ยวข้องกับการจัดลำดับความสำคัญของชีวิต การทำให้ตนเองมีวินัย และเป็นการบริหารจัดการตนเองอย่างแท้จริง

การรู้จักบริหารจัดการเรื่องเวลา จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จในชีวิต

          6. การพัฒนาตน ถ้าต้องการจะประสบความสำเร็จ จะต้องคิดถึงการพัฒนาตน เพราะการพัฒนาตนเป็นการเพิ่มการเจริญเติบโตและความก้าวหน้าให้กับชีวิต

ไม่มีใครสามารถหยุดยั้งของคนเราไม่ให้ก้าวไปข้างหน้าได้  ถ้ามีการพัฒนาตนอยู่เสมอ

จากการศึกษาบุคคลที่ประสบความสำเร็จในชีวิต จะพบว่า มีหลายคนที่สามารถจะประสบความสำเร็จได้เมื่อมีอายุเกิน 45 ปี คนเหล่านี้ล้วนแต่ประสบความสำเร็จได้ด้วยการพัฒนาตน

จงจำไว้ว่า ถ้าต้องการเจิญก้าวหน้า ไม่ว่าจะประกอบอาชีพหรือทำงานใดๆ การพัฒนาตนเท่านั้น ที่สามารถช่วยให้บรรลุวัตถุประสงค์ได้

          7. สุขภาพ ถ้าต้องการจะประสบความสำเร็จในชีวิต จะต้องไม่ละเลยเรื่องสุขภาพ ทางกาย ทางจิตใจ และทางจิตวิญญาณ เว้นแต่อยากจะเสี่ยง  เพราะการมีสุขภาพไม่ดี นำไปสู่ ความเจ็บป่วย เจ็บปวด เก็บกด และหมดหวัง

บุคคลจะต้องดูแลเรื่องสุขภาพอย่างจริงจัง ด้วยการดุแลเรื่องอาหารการกิน การออกกำลังกาย และการพักผ่อน ให้อยู่ในสภาพที่สมดุลย์เพื่อการมีสุขภาพที่ดี

          8. ความคิดสร้างสรรค์ หากต้องการจะประสบความสำเร็จในชีวิต จะต้องคิดอย่างสร้างสรรค์ เพราะการคิดอย่างสร้างสรรค์เท่านั้น ที่สร้างสิ่งดีๆให้เกิดขึ้นมาในโลกใบนี้

          9. การบริการ  การบริการเป็นกฎของสาเหตุและผลของการกระทำที่แท้จริง
ทั้งนี้เพราะการกระทำทุกอย่าง จะได้รับการมีปฏิกริยาโต้กลับในลักษณะที่เท่าเทียมกัน  ยิ่งเราบริการคนอื่นมากเท่าไร เราจะได้รับการบริการมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งเป็นแนวทางหนึ่งที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ

การบริการจึงเป็นปัจจัยสำคัญประการหนึ่ง ของผู้ที่ต้องการจะประสบความสำเร็จในชีวิต

ปัจจัยทั้งหมดที่กล่าวมานี้ เป็นปัจจัยสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จในชีวิต คนจะประสบความสำเร็จได้ จะต้องถึงพร้อมด้วยปัจจัยเหล่านี้ โดยไม่อาจจะละเลยปัจจัยหนึ่งปัจจัยใดได้ 
                     ------------------------------------------------------------------

                                                      สาระคิด

                   Forty is the old age of youth; fifty is the youth of old age.
                                     ------------------------------------------
                 

วันจันทร์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2558

ความเชื่อมั่นในตน : หนทางสู่ความสำเร็จในชีวิต

นักจิตวิทยาเชื่อว่า บุคลิกภาพของคนเรามีผลกระทบจาก 2 ด้าน คือด้านที่คนอื่นมีอิทธิพลต่อเรา กับด้านที่เรามีอิทธิพลต่อคนอื่น

ด้านที่ปล่อยให้คนอื่นมีอิทธิพลต่อเรา จะมีอิทธิพลอย่างใหญ่หลวงต่อความไม่สงบภายใน ความสุข และความสามารถของเรา

แต่ในการทำสิ่งสำคัญๆ ตลอดจนความสำเร็จในชีวิต ส่วนใหญ่เกิดจากด้านที่เรามีอิทธิพลเหนือคนอื่น

คนที่มีประสิทธิผล คือคนที่สามารถทำให้คนอื่นทำตามที่เราต้องการ

การจะมีอิทธิพลเหนือคนอื่นได้ จะต้องเริ่มด้วยมีความเชื่อมั่นในตนและความสามารถของตน

ความเชื่อมั่นในตน คือความเชื่อว่าตนสามารถทำได้สำเร็จในสิ่งที่ตั้งเป้าหมายไว้ ความเชื่อมั่นในตนไม่ใช่ความหยิ่งยะโส ความอวดดี หรือการยึดตนเองเป็นศุนย์กลาง

ความเชื่อมั่นในตน จะสร้างความแตกต่างระหว่างความสำเร็จและความล้มเหลว

ผู้ที่สงสัยในตนและความกลัวความล้มเหลว จะเป็นศัตรูสำคัญต่อความเชื่อมั่นในตน

คนที่เชื่อมั่นในตน มุ่งที่จะทำงานให้สำเร็จตามเป้าหมาย มากกว่าที่จะแสดงให้ทุกคนเห็นว่าตนเป็นผู้ยิ่งใหญ่

คนที่เชื่อมั่นในตน จะร่าเริงในภาวะที่ยากจะร่าเริง อดทนในสิ่งที่ยากจะอดทน และก้าวไปข้างหน้าในขณะที่ต้องการจะยืนอยู่กับที่

คนที่เชื่อมั่นในตน ยินดีต้อนรับการต่อสู้และการต่อต้าน  เพราะเชื่อว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุด ที่ทำให้เกิดความกล้าและความีใจกว้าง

กุญแจสำคัญที่นำไปสู่ความเชื่อมั่นในตนคือการมีวินัยในตนเอง  เพราะทุกสิ่งจะเกิดขึ้นได้เมื่อเราสามารถควบคุมตัวเองได้

หลักการต่อไปนี้ จะช่วยให้บุคคลสามารถสร้างความเชื่อมั่นในตนได้สำเร็จ กล่าวคือ

          1.ตัดสินใจให้ได้ว่าข้อจำกัดใดที่ต้องยอมรับข้อจำกัดใดที่ต้องต่อต้าน เพราะเป็นความผิดพลาดที่สรุปว่า ข้อจำกัดทั้งหมดเป็นการบังตนให้ต้องยอมรับ

          2. สนใจแต่เฉพาะความแข็งแกร่งที่สุดของตน เพราะความแข็งแกร่งทำให้สามารถทำในสิ่งที่ต้องการจะทำได้

          3. ปลูกฝังความศรัทธาในตน เรียนรู้ที่จะบันทึกความสำเร็จและชัยชนะของตน  เพราะการกระทำดังกล่าว จะช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในตน

          4. เรียนรู้จากความผิดพลาดและความล้มเหลว  คนที่เชื่อมั่นในตนจะต้องรู้จักเรียนรู้ถึงสิ่งที่มีคุณค่าจากความล้มเหลวหรือความผิดพลาดในแต่ละครั้ง อย่าปล่อยให้ความผิดพลาดหรือความล้มเหลวทำให้ตนเกิดความพ่ายแพ้

          5.เรียนรู้ที่จะยอมรับการวิพากษ์วิจารณ์ในเชิงสร้างสรรค์และไม่รับรู้การวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องเล็กๆน้อยๆ เพราะการวิพากษ์วิจารณ์ในเชิงสร้างสรรค์นอกจากจะช่วยให้การปฏิบัติงานดีขึ้นแล้วยังช่วยให้เรามีความเชื่อมั่นในตนเพิ่มขึ้น ส่วนการวิพากษ์วิจารณ์ที่เกิดจากความอิจฉา หรือในเชิงลบอันเกิดจาการที่เราประสบความสำเร็จ ไม่ควรจะรับรู้ เพราะไม่ช่วยให้เราปฏิบัติงานได้ดีขึ้น

          6. เมื่อสามารถทำสิ่งใดได้ดีที่สุดควรมีการให้รางวัลตนเอง ที่ใช้ความพยายามและทำได้สำเร็จ

          7. รู้จักการถ่อมตน คนซึ่งหยิ่ง หรือภูมิใจในตนเองมากเกินไป ไม่เร็วก็ช้าจะล้มทั้งยืนเพราะความล้มเหลว การยอมรับความผิดพลาด ก็เป็นองค์ประกอบหนึ่งของความถ่อมตน

หากบุคคลปฏิบัติได้ตามแนวทางดังกล่าวนี้ เชื่อได้ว่าความเชื่อมั่นในตนจะเกิดขึ้นและแล้วความสำเร็จในชีวิตจะตามมา ทั้งนี้เพราะ ความสำเร็จในชีวิตของคน จะต้องเริ่มด้วยการมีความเชื่อมั่นในตน  เพราะความเชื่อมั่นในตนจะทำให้เรามีอิทธิพลเหนือคนอื่น และมีผลทำให้คนอื่นทำในสิ่งที่เราต้องการ ซึ่งเป็นที่ยอมรับกันว่านั่นคือความสำเร็จในชีวิตของบุคคล
             -------------------------------------------------------------------------

                                                     สาระคิด

                                 You can, if you believe you can.
                            ---------------------------------------------------

วันจันทร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2558

สมรรถนะเฉพาะมนุษย์

สมรรถนะ หมายถึง ความสามารถที่จะทำอย่างใดอย่างหนึ่งให้สำเร็จ 

จาการศึกษาของนักจิตวิทยาพบว่า สมรรถนะต่อไปนี้ มนุษย์เท่านั้นที่มี สัตว์อื่นไม่มีซึ่งได้แก่

          1. ความสามารถที่จะคิด ในบรรดาสัตว์โลกทั้งหลาย มนุษย์เท่านั้นที่สามารถที่จะคิด มีเหตุผล เก็บความรู้ไว้ได้ รู้จักพัฒนาปัญญา รู้จักคิด รู้จักตรวจสอบข้อมูลข่าวสาร  แต่นักวิทยาศาสตร์พบว่า มนุษย์ได้ใช้สมรรถนะทางด้านนี้น้อยมาก แม้แต่ Einstein, Socrates และ Edison ได้ใช้สมรรถนะของสมองเพียง ร้อยละ 10 เท่านั้น  อย่างไรก็ตามจะต้องคิดอย่างมีเป้าหมาย จึงจะเกิดประโยชน์

          2. ความสามารถที่จะสร้างสรรค์  แม้ว่ากายมนุษย์จะมีข้อจำกัดในบางเรื่อง  แต่จิตและวิญญาณของมนุษย์ สามารถมีอิสระในการที่จะสร้างสรรค์

ศัตรูที่สำคัญต่อพลังสร้างสรรค์ของมนุษย์ คือความพอใจกับความสำเร็จเล็กๆน้อยๆ เป็นความพอใจผลงานที่เกิดจากการใช้ความสามารถน้อยกว่าความสามารถที่มีอยู่จริงๆ

ในความเป็นจริง ทุกคนไม่มีความสมบูรณ์ในทุกเรื่อง แต่ทุกคนสามารถปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้นได้ด้วยการสร้างสรรค์ ตลอดจนรู้จักปรับปรุงความสามารถในการสร้างสรรค์ให้ดีและเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง

          3. ความสามารถที่จะรัก มนุษย์มีทั้งสมรรถนะในการที่จะรัก ต้องการที่จะรัก และต้องการให้คนอื่นรัก ความสามารถนี้มีตั้งแต่มนุษย์เริ่มหายใจ

ในบรรดาความสามารถของมนุษย์ทั้งหมด ความรักเป็นสิ่งที่สูงส่งที่สุด และสามารถทำให้สูงขึ้นได้มากที่สุด ความรักเป็นสิ่งที่มีพลังมากที่สุดในจักรวาล

ความรักทำให้เกิดการสร้าสรรค์ รู้จักคิด และทำให้กายปฏิบัติเช่นเดียวกับความเกลียด  ความรักทำให้ความสำเร็จมีคุณค่า เพียงแต่รักและถูกรัก ทำให้สามารถพัฒนาได้เต็มศักยภาพในฐานะที่เป็นมนุษย์

          4. ความสามารถที่จะหัวเราะและร้องไห้ เท่าที่ทราบ มนุษย์เป็นสัตว์ชนิดเดียวในจักรวาลที่มีโครงสร้างทางอารมณ์ ที่ทำให้สามารถหัวเราะและร้องไห้ได้  ทั้งหัวเราะและร้องไห้จำเป็นต่อการพัฒนาให้เต็มศักยภาพของมนุษย์

ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับความเครียด การมีอารมณ์ขันเป็นการป้องกันไม่ให้คนเราเกิดความเครียดมากเกินไป  บุคคลที่สามารถหัวเราะได้บ่อยๆและมีอารมร์ขัน แม้ในสถานการณ์ที่เครียดมากๆ ก็สามารถก้าวไปข้างหน้าได้

การร้องไห้เป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์ของมนุษย์ อันเกิดจากการสูญเสียคนรัก การพ่ายแพ้ การผิดหวังอย่างแรง ตลอดจนมีกรณีแวดล้อมอื่นๆ ที่นำความโศกเศร้ามาให้

กุญแจเพื่อสุขภาพทางอารมณ์ของมนุษย์ ก็คือการเรียนรู้ที่จะจัดการกับความเศร้า บุคคลที่มีปฏิกิริยาต่อความเศร้าโศกด้วยการโกรธ จะเป็นคนที่ขมขื่น กระด้าง และชอบเยาะเย้ยถากถาง

          5. ความสามารถที่จะตัดสินโดยใช้คุณธรรมและจริยธรรม สัตว์อื่นตอบสนองต่อสิ่งเร้าด้วยแรงขับภายใน แต่มนุษย์มีสมรรถนะที่จะตัดสินและตอบสนองโดยใช้คุณธรรมและจริยธรรม ที่เรียกว่ามโนธรรม

          6. ความสามารถที่จะรับและทิ้งมรดกไว้เบื้องหลัง สัตว์ถ่ายทอดมรดกโดยผ่านทางพันธุกรรมเท่านั้น แต่มนุษย์สามารถที่จะถ่ายทอดความรู้ และความเฉลียวฉลาดจากคนรุ่นหนึ่งไปยังอีกรุ่นหนึ่ง

มนุษย์สามารถทำให้ชีวิตดีขึ้นได้ ก็โดยอาศัยความฉลาดของคนรุ่นก่อนที่ส่งต่อกัน มาให้เราหลายชั่วอายุ  อาจกล่าวได้ว่า ผลิตภัณฑ์ต่างๆในยุคของเรา เกิดขึ้นได้เพราะการต่อสู้และการสร้างสรรค์อย่างมีอัจฉริยะของคนรุ่นก่อน หรืออาจพูดได้ว่าสิ่งเราทำในวันนี้ จะส่งผลกระทบต่อชีวิตของคนในหลายศตวรรษข้างหน้า

สมรรถนะที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ เป็นสมรรถนะของมนุษย์ที่ไม่มีในสัตว์อื่น หากมนุษย์รู้จักใช้สมรรถนะเหล่านี้อย่างเต็มที่ อย่างมีเป้าหมาย จะเกิดประโยชน์แก่มนุษย์เองทั้งในปัจจุบันและอนาคต
                      ------------------------------------------------------------------

                                                            สาระคิด

การหัวเราะเป็นของขวัญที่ควรจะแบ่งให้กับทุกๆคน แต่น้ำตาควรเก็บไว้คนเดียวเป็นการดีที่สุด
                                    --------------------------------------------------