เศรษฐกิจดิจิตอล เป็นเศรษฐกิจของผู้มีความรู้ เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้เศรษฐกิจขึ้นอยู่กับความรู้ เป็นยุคทึ่ทำงานโดยคนมีความรู้ บริโภคโดยคนมีความรู้ มีการแข่งขันเพื่ออนาคตในการประดิษฐ์คิดค้นผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ๆ
เศรษฐกิจดิจิตอล องค์กรจะแตกตัวเล็กลง เป็นเศรษฐกิจแบบเครือข่าย มีนวัตกรรมเป็นพื้นฐานทางเศรษฐกิจ เป็นเศรษฐกิจแบบโลกาภิวัตน์ ที่ถูกผลักดันด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี
เศรษฐกิจดิจิตอล ทำให้การศึกษาแบบเดิมไล่ตามความต้องการแบบใหม่ไม่ทัน ทำให้เกิดการศึกษาแบบใหม่ในระบบเศรษฐกิจยุคดิจิตอล ที่ต้องอาศัยระบบการคิดที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง มีขอบเขตกว้างขวางกว่าเดิม มีความสัมพันธ์ระหว่างการศึกษากับการทำงานมากขึ้น ซึ่งสาระสำคัญของการศึกษาแบบใหม่มีดังนี้
1. การทำงานและการศึกษากลายเป็นสิ่งเดียวกัน เพราะเศรษฐกิจดิจิตอลเป็นระบบเศรษฐกิจที่อยู่บนพื้นฐานของการทำงานที่อาศัยความรู้และสิ่งประดิษฐ์ใหม่ๆ ทำให้เกิดการรวมกันระหว่างการทำงานกับการศึกษา เป็นการทำงานที่ต้องอาศัยความรู้ที่ทำให้เกิดการเรียนรู้ คือต้องเรียนรู้ตลอดเวลา เพื่อให้การทำงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งในยุคเศรษฐกิจแบบเก่าความจำเป็นที่จะต้องเรียนรู้สิ่งใหม่ๆมีเพียงเล็กน้อย
2. การศึกษาเป็นเรื่องที่ต้องทำตลอดชีวิต ในยุคเศรษฐกิจแบบเก่า ชีวิตถูกแบ่งเป็น 2 ฃ่วง คือช่วงเวลาศีกษากับช่วงเวลาทำงาน ในช่วงศึกษาจะศึกษาจากสถาบันการศึกษา และใช้เวลาที่เหลือของชีวิตทำงานและเติบโตไปตามสายงาน แต่ในระบบเศรษฐกิจแบบใหม่ ผู้ทำงานจะต้องทบทวนความรู้ที่มีอยู่ตลอดเวลาหรืออาจตลอดชีวิต การศึกษากลายเป็นกระบวนการที่ต้องทำตลอดชีวิต ผู้เชี่ยวชาญคือผู้ก้าวทันอนาคต การศึกษากลายเป็นศิลปะของการมีชีวิตอยู่
3. การศึกษาเปลี่ยนจากการเรียนในสถาบันการศึกษาตามปกติไปสู่ภายนอก เนื่องจากระบบเศรษฐกิจแบบใหม่ ต้องอาศัยความรูั ต้องการการศึกษาตลอดชีวิต เอกชนจึงต้องแบกรับภาระความรับผิดชอบด้านการศึกษามากขึ้น การศึกษาซึ่งครั้งหนึ่งเรียนรู้กันในวัด ต่อมาเป็นหน้าที่ของรัฐบาล และสุดท้ายกำลังเปลี่ยนไปอยู่ในมือของภาคธุรกิจ เพราะเศรษฐกิจแบบใหม่เป็นระบบเศรษฐกิจที่ต้องอาศัยความรู้ บริษัทและคนทำงานจะต้องรับผิดชอบในการศึกษา เพื่อให้การทำงานงานมีประสิทธิภาพ ความรู้คือปัจจัยในการประกอบอาชีพ เทคโนโลยีและรูปแบบการทำงานเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
4. สถาบันการศึกษากำลังปรับตัวเพื่อให้ตัวเองยังมีประโยชน์ต่อไป แต่การปรับตัวเป็นไปอย่างเชื่องช้า ในสถานการณ์ที่กำลังเปลี่ยนแปลง ในโลกที่เต็มไปด้วยข้อมูล การศึกษาไม่สามารถเกิดขึ้นในห้องเรียนได้ทั้งหมด ทำให้สถาบันการศึกษาต้องทบทวนบทบาทของตนเอง คอมพิวเตอร์และระบบเครือข่ายอินเตอร์เนตเข้ามามีบทบาทมากขึ้น
5. ความจำเป็นในการสร้างองค์กรแห่งการเรียนรู้กลายเป็นจิตสำนึกขององค์กร องค์กรแห่งการเรียนรู้เป็นสถานที่ที่ทุกคนสามารถเพิ่มความรู้ความสามารถ เพื่อจะได้กระทำในสิ่งที่ต้องการ องค์กรแห่งการเรียนรู้เกิดจากการทำงานเป็นทีม มีการแข่งขัน มีวิสัยทัศน์ และการเรียนรู้ร่วมกัน
6. สื่อแนวใหม่สามารถเปลี่ยนระบการศึกษาทำให้เกิดโครงสร้างพื้นฐานด้านสารสนเทศเพื่อใช้ในการทำงานและการเรียนพร้อมกัน สำหรับเศรษฐกิจยุคดิจิตอล พื้นฐานด้านสารสนเทศและวัฒนธรรมที่สร้างโดยมนุษย์ กำลังกลายเป็นสิ่งที่พบได้ในทางด่วนข้อมูล ช่วยให้สามารถฝึกอบรมความสามารถพิเศษต่างๆ เช่น เรียนรู้ภาษาใหม่ๆ ทักษะใหม่ๆ ฯลฯ ทำให้มนุษย์สามารถเรียนรู้ในที่ทำงาน ในรถยนต์ หรือที่บ้านก็ได้ จะเห็นว่า นอกจากสถาบันการศึกษาจะเปลี่ยนระบบการศึกษาให้อยู่ภายในมือของเอกชนมากขึ้นแล้ว เทคโนโลยีสมัยใหม่สามารถเปลี่ยนสถาบันการศึกษาได้ เทคโนโลยีอาจทำให้ครูมีหน้าที่กระตุ้น อำนวยความสะดวก แทนการพูดแต่ข้อเท็จจริงซ้ำไปซ้ำมา การใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษาเป็นพัฒนาการที่สำคัญที่สุด สื่อประสมทำให้การเรียนรู้เป็นไปอย่างลึกซึ้งมากขึ้น
ทั้งหมดเป็นการเปลี่ยนแปลงทางการศึกษาที่กำลังเกิดขึ้น และเกิดขึ้นต่อๆไป เพื่อให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว หลากหลาย โดยมีเทคโนโลยีนำ
---------------------------------------------------------------------------------------
สาระคิด
โลกเป็นโรงเรียนฝึกฝนตนเองชั้นเยี่ยม
เป็นสถานที่ซึ่งช่วยให้เราได้เรียนรู้บทเรียนอันหลากหลาย
ตลอดจนความสุขและความทุกข์ของชีวิต
E.R.M.K.Gupta
--------------------------------------------------------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น