วันจันทร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

การปฏิรูปการศึกษาจะต้องปฏิรูปการคิด:ตอน 2

หากจะย้อนกลับไปดูการศึกษาที่ผ่านมา ดูการเรียนการสอนในระบบโรงเรียน ซึ่งเป็นแหล่งที่ก่อให้เกิดการเรียนรู้ที่สำคัญของสังคมไทย จะพบว่ามีวิธีเรียนที่สำคัญ คือ ฟัง สังเกต จด ท่องจำ และสอบ  ในการสอบนักเรียนจะต้องตอบให้ตรงกับที่ครูสอน  ส่วนกิจกรรมการสอนของครู คือบอกและอบรมความประพฤติเป็นสำคัญ

ครูเป็นผู้ชี้ผิดชี้ถูก ถ้าชี้ผิดเป็นผิดก็ดีไป  แต่ถ้าชี้ผิดเป็นถูก  นี่สิ นับว่าเป็นอันตรายอย่างยิ่ง

ผลที่ได้จากวิธีเรียนแบบนี้  คือผู้เรียนจะต้องจำสิ่งที่ครูสอนให้ได้  ไม่กระตือรือร้นที่จะศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง จึงทำให้เกิดลักษณะที่ยึดและเชื่อในตัวบุคคลมากกว่าหลักการและข้อเท็จจริง คิดเองไม่เป็น ต้องมีคนอื่นช่วยบอกช่วยชี้แนะ
 
ผลที่ตามมาคือคนไทยจะรับกระแสต่างๆได้ง่าย  แต่ไม่ค่อยจะลึกซึ้งกับสิ่งที่รับนั้น  เพราะไม่ได้คิดเอง

และเป็นที่น่าสังเกตว่าสังคมไทย  มีนักคิดเพียงไม่กี่คน  คิดได้ทุกเรื่อง  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับเศรษฐกิจ การเมือง สังคมหรือวัฒนธรรม  คนเหล่านี้ชี้นำสังคมไทยมาตลอด ผิดบ้างถูกบ้าง  แต่คนไทยก็ยังเชื่อถือและยอมรับ

ในการประชุมสัมมนาครั้งสำคัญๆ  จะปรากฎชื่อนักคิดเหล่านี้เป็นผู้ร่วมอภิปรายอยู่เสมอ  อาจจะเป็นที่ยอมรับเพราะท่านคิดถูกมากกว่าผิด หรืออาจจะยอมรับเพราะไม่ต้องคิดเองให้เปลืองสมอง ซึ่งประเด็นนี้ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน

ถ้าหากคนไทยทุกคนช่วยกันคิด คิดอย่างเป็นวิทยาศาสตร์  มีข้อมูลที่ชัดเจน  ก็เป็นที่แน่นอนว่า ปัญหาของสังคมไทยจะลดลง
                                     ----------------------------------------------

                                                            สาระคิด

อย่าถามเด็ดขาดว่า  ทำไมชีวิตเมื่อก่อนดีกว่าปัจจุบันนี้ เพราะคุณไม่ได้ใช้สติปัญญาของคุณในการถามเลย
                                                                              Ecclesiastes 7:10
                              -----------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น