วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ชีวิตที่สมดุลสำหรับผู้สูงวัย

สมัยนี้รู้สึกว่าผู้คนไม่ค่อยจะยอมแก่  สังเกตได้จาก  อาหารเสริม วิตามิน หรือหนังสือหนังหาเกี่ยวกับวิธีที่ช่วยในการชะลอวัยมักจะขายดี  ตามสวนสาธารณะต่างๆ  มีคนออกกำลังกายมากขึ้น  วิ่งบ้างเดินบ้าง  ตามที่เห็นว่าเหมาะสมกับตน

เอาเหอะเมื่อไม่อยากแก่  ก็ไม่ต้องแก่ ชีวิตเป็นของเรา เลือกได้

สำหรับผู้สูงวัย  แม้จะยากสำหรับการชะลอวัย แต่การใช้ชีวิตที่สมดุล  จะช่วยทำให้ชีวิตมีคุณภาพ สามารถช่วยเหลือตนเองได้ตามควรแก่วัย  ไม่เป็นภาระกับลูกกับหลานมากนัก

หลายคนคงเอาใจใส่เรื่อง  อาหาร  อากาศ  อารมณ์  ออกกำลังกาย  และอุจจาระ  ซึ่งหากถือปฏิบัติอย่างจริงจัง  ก็จะช่วยให้คุณภาพชีวิตดีขึ้นได้เหมือนกัน

ส่วนการใช้ชีวิตที่สมดุล  ที่จะกล่าวต่อไปนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องใหม่  เพียงแต่เอาคติไทยมาปรับใช้  กล่าวคือคนไทยเรานั้น แบ่งชีวิตออกเป็น 4 วัย คือ วัยเล่น วัยเรียน วัยทำงาน และวัยทำบุญ

วัยเล่น เป็นวัยที่เน้นหนักไปในทำกิจกรรมเพื่อความสนุกสนาน ทั้งการเคลื่อนไหวและไม่เคลื่อนไหวร่างกาย  เด็กคนไหนไม่เล่นก็จะกลายเป็นเด็กที่แปลก  ผิดปกติ

วัยเรียน เน้นที่การแสวงหาความรู้ ทั้งในและนอกระบบโรงเรียน  เพื่อการทำงานประกอบอาชีพ ใครไม่เรียนก็จะถูกประณามว่าเป็นเด็กขี้เกียจ  ไม่เอาถ่าน

วัยทำงาน ก็มุ่งแต่งานไม่เรียนไม่เล่น ไม่อ่าน ไม่ฟัง จบโรงเรียนออกมาห้าปีขึ้นไปกลับไปโง่เท่าเดิม

วัยทำบุญ  ก็มุ่งแต่ทำบุญเข้าวัดเข้าวา ถือศีลกินเจ มีอะไรก็ถวายวัด หวังจะขึ้นสวรรค์เมื่อตายไป  โดยหารู้ไม่ว่า จริงๆแล้วตอนนี้สวรรค์ค่อนข้างจะเงียบเหงา  กลับไปคึกคักอยู่ที่นรก

ผู้สูงวัยถ้าถือตามคติไทย จะเข้าวัดทำบุญก็เป็นเรื่องที่ควรทำ  แต่ถ้าอยากมีชีวิตที่ดี  จะต้องทั้งเล่น เรียนทำงาน และทำบุญควบคู่กันไป อย่างสมดุล  การละเลยเรื่องใดเรื่องหนึ่งทำให้ชีวิตเสียสมดุล  ปัญหาต่างๆก็จะเกิดตามมมา  แต่จะเกิดปัญหาเรื่องใดนั้น  ขึ้นอยู่กับว่าขาดดุลในเรื่องใด

ไม่เล่นไม่เคลื่อนไหว ร่างกายก็จะไม่แข็งแรง  ไม่เล่นไม่ทำงาน  แต่ละวันนั่งรอให้พระอาทิตย์ตกดิน  อาจนำไปสู่โรคซึมเศร้า เพราะวันๆคิดแต่เรื่องตัวเอง  ซึ่งนับวันจะแก่เฉาลงทุกที ไม่ทำบุญทำทานเสียเลย ก็จะหลงงมงายอยู่ในวงเวียนชีวิต

ด้วยเหตุนี้ ใครที่ไม่เคยดูหนังฟังเพลง  หรือออกกำลังกาย ก็ควรทำบ้าง ชีวิตจะได้สดชื่น

ยุคนี้เป็นยุคข้อมูลข่าวสาร  ถ้าไม่ติดตามข่าวสารบ้างจะตกยุค  ถ้าไม่อยากตกยุค ก็ควรแสวงหาความรู้บ้าง  พูดอะไรออกไปลูกหลานจะได้เชื่อถือ อินเตอร์เนตถ้าใช้เป็นก็จะดี เพราะมีทั้งความรู้และเรื่องสนุกสนาน  แต่ระวังอย่าติดเน็ตตอนแก่  จะเสียคน

การทำงานก็เช่นกัน คนที่มีกิจการส่วนตัวก็ทำไป แต่อย่าหักโหมให้มาก ส่วนคนที่เป็นมนุษย์เงินเดือน พ้นวัยทำงานแล้ว ก็ควรหางานทำบ้าง ซึ่งอาจจะไม่ใช่เป็นการทำงานเพื่อเงิน  แต่ทำเพื่อไม่ให้ชีวิตฟุ้งซ่าน  ทำงานอะไรก็ได้ตามที่ชอบ ที่อยากทำซึ่งเมื่อก่อนไม่มีเวลาทำ  หากไม่รู้จะทำอะไร ก็ช่วยแบ่งเบาภาระทางบ้านก็ยังดี

ส่วนการทำบุญ แน่นอนว่าทำให้รู้สึกดีๆกับตนเองและคนรอบข้าง  การนั่งสมาธิปฏิบัติธรรมใครที่ไม่เคยก็น่าจะลอง  เพราะทำให้จิตใจสงบนิ่ง

อย่างไรก็ตาม  การจะเล่น เรียน ทำงาน หรือทำบุญ จะต้องคำนึงถึงวัย และบุคลิกภาพของตน  อย่าให้เกินกำลัง และที่สำคัญต้องทำอย่างสมดุล แล้วคุณภาพชีวิตจะดีขึ้น

เชื่อไม่เชื่อก็น่าจะลอง ไม่เสียหายอะไรไม่ใช่หรือ
                                        ----------------------------------------
                                                                สาระคำ

คอร์รัปชั่นเชิงนโบาย  หมายถึง  ผู้กำหนดนโบายมีผลประโยชน์ทับซ้อน และแสวงหาผลประโยชน์ส่วนตนหรือพรรคพวก โดยอาศัยตำแหน่งหน้าที่  หรืออำนาจที่ได้รับมอบหมายเป็นเครื่องมือ  อาจไม่ผิดกฎหมายแต่ไม่ถูกต้องตามหลักจริยธรรม
                                                   ---------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น